น้ำมันตับปลาดียังไง? ทำความรู้จักกับประโยชน์และโทษของน้ำมันตับปลา
น้ำมันตับปลาดียังไง? เชื่อว่ายังมีหลายๆ ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จากเกี่ยวกับ ความแตกต่างระหว่างน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา เพื่อให้ท่านสามารถแยกและใช้ประโยชน์จากอาหารเสริมเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น โดยก่อนอื่นเลย น้ำมันตับปลา เป็นน้ำมันที่ถูกสกัดมาจากตับปลาซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปลาทะเล โดยตับปลานั้นเป็นแหล่งสะสมของวิตามินเอ และวิตามินดี ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันดังนั้นน้ำมันตับปลาจึงมีวิตามินเอและวิตามินดีสูง โดยน้ำมันตับปลานั้นจัดเป็นอาหารเสริมชนิดแรกๆ ที่ได้เข้ามามีบทบาทในวงการสุขภาพของไทยมาหลายปีแล้ว ซึ่งถ้าให้พูดถึงน้ำมันตับปลาแล้วหลายๆคนก็คงพอคุ้นหูกันอยู่บ้างแต่รู้หรือไม่ว่า น้ำมันตับปลาคืออะไร และมีคุณสมบัติหรือประโยชน์อย่างไรอีกทั้งยังมีผลเสียอะไรหรือไม่ ที่สำคัญใช้ได้ผลจริงหรือไม่ เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นเกียรติความรู้สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นรับประทานน้ำมันตับปลา เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จากกันนั่นเอง สำหรับน้ำมันตับปลานั้นเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดหนึ่งที่มีสารพัดยี่ห้อ ไม่ว่าจะมาเป็นในรูปแบบของแคปซูลหรือแบบน้ำก็ตาม ซึ่งในปัจจุบันนิยมใช้กับเด็กและวัยทั่วไปเพื่อช่วยเสริมสร้างกระดูกและช่วยเสริมสุขภาพ การรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมนั้นจะได้รับประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าการรับประทานในปริมาณมากเพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ และที่สำคัญสำหรับหญิงตั้มครรภ์ไม่ควรรับประทานเนื่องจากมีวิตามินเอสูงอาจทำให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้นั่นเอง
ทำความรู้จักกับความแตกต่างระหว่างน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา
น้ำมันปลา (Fish Oil) คือน้ำมันที่ได้รับจากกระบวนการสกัดเอาน้ำมันออกมาจากส่วนต่างๆของปลา ไม่ว่าจะเป็น เนื้อปลา หนังปลา หางปลาและหัวปลาโดยปลาทะเลที่จะนำมาสกัดนั้นจะเป็นปลาที่อยู่ในทะเลน้ำลึกเขตหนาวเย็น ซึ่งจะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ปริมาณมากกว่าปลาน้ำจืด อาทิเช่น ปลาแองโชวี่ ปลาแมคเคอเรล หรือปลาทูน่ามีไขมันเป็นต้น
- สารอาหารสำคัญของน้ำมันปลา (Fish Oil) : น้ำมันปลานั้นต่างก็อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งจะประกอบไปด้วยกรดไขมันสำคัญทั้งหมดอยู่ 2 ชนิด นั่นก็คือ EPA (Eicosapentaenoic Acid) และ DHA (Docosahexaenoic Acid) โดยมีผลวิจัยจากทางการแพทย์มากมายสรุปอย่างเห็นได้ชัดว่า น้ำมันปลามีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตสูง ลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ และยังช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ สมองอุดตันนอกจากนี้ยังสามารถช่วยบำรุงสมองและหัวใจได้ด้วย
- น้ำมันปลาเหมาะกับใคร : น้ำมันปลานั้นเหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงหัวใจ สมอง โดยจะป้องกันหลอดเลือดหัวใจและสมองอุดตันหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูงหรือต้องการลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบโรคข้อรูมาตอยด์ โรคซึมเศร้า และโรคสมองเสื่อม เป็นต้น
น้ำมันตับปลา (Cod liver oil) คือน้ำมันที่ได้มาจากน้ำมันตับปลาและจะสกัดมาจากตับของปลาทะเลน้ำลึก โดยเฉพาะปลาค็อดหรือที่หลายคนคนหน้าคุ้นตาในชื่อของ Cod liver oil นั่นเอง
- สารอาหารสำคัญของน้ำมันตับปลา (Cod liver oil) : น้ำมันตับปลานั้นมีดกรดไขมันหลักๆอยู่ 2 ชนิดนั่นก็คือ EPA และ DHA ในปริมาณที่น้อยกว่าน้ำมันปลาแต่มีวิตามินเอและวิตามินดี ในปริมาณสูงกว่าน้ำมันปลา
- น้ำมันตับปลาเหมาะกับใคร? : น้ำมันตับปลานั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลในเรื่องของสายตาและกระดูก เนื่องจากว่ามีวิตามินเอและวิตามินดีสูงซึ่งวิตามินเอนั้นเป็นวิตามินสำหรับดวงตา เพราะมีประโยชน์ต่อสมรรถภาพในการมองเห็นและช่วยให้มองเห็นในที่ที่มีแสงสว่างน้อยได้ดียิ่งขึ้น และในส่วนของวิตามินดีเองนั้นก็มีคุณสมบัติในการบำรุงกระดูก ปกป้องกระดูกพรุนและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงรวมไปถึงยังถูกนำมาใช้เสริมในผู้ป่วยที่มีภาวะขาดวิตามินเอและขาดวิตามินดีได้อีกด้วยเช่นเดียวกัน
- ข้อควรระวังในการทานน้ำมันตับปลา (Cod liver oil) : น้ำมันตับปลานั้นมีปริมาณของวิตามินเอและวิตามินดีสูง ซึ่งวิตามินทั้ง 2 ตัวนี้เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ซึ่งถ้าหากว่าได้รับในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะเกิดการสะสมและก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เช่น การคลื่นไส้วิงเวียนศีรษะ อาหารไม่ย่อย ผิวหนังเป็นผื่น และนอนไม่หลับได้ในบางคน รวมไปถึงในหญิงตั้งครรภ์ควรระมัดระวังมากๆในการรับประทานสารอาหารชนิดนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากปริมาณวิตามินเอที่สูงนั้นอาจส่งผลให้ทารกในครรภ์เกิดความผิดปกติได้
ประโยชน์ของการรับประทานน้ำมันตับปลา (Cod liver oil)
น้ำมันตับปลามีวิตามินดีและวิตามินเอสูง โดยวิตามินดีนั้นจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอไลน์ได้เป็นอย่างดีจึงจะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคกระดูกอ่อนในเด็ก ฟันผุขั้นรุนแรง รวมไปถึงโรคกระดูกน่วมภาวะกระดูกพรุนในผู้สูงอายุได้อีกด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้วิตามินดีช่วยในการดูดซึมของวิตามินเอในน้ำมันตับปลาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งวิตามินดียังช่วยสามารถรักษาโรคเยื่อบุตาอักเสบได้ และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องผิวหนังและดวงตาจากการถูกทำลายจากมลพิษ ที่สำคัญประโยชน์ของน้ำมันตับปลานั้นยังช่วยขับล้างสารพิษในร่างกายและยังช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและประสานแผลได้เร็วขึ้น นอกจากนี้วิตามินเอยังช่วยลดระยะเวลาในการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆได้เป็นอย่างดีอีกด้วยเช่นเดียวกันทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดตามร่างกายโดยเฉพาะอาการของโรคข้อต่ออักเสบ สามารถช่วยค่าเซลล์มะเร็งและป้องกันการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้และยังช่วยลดอาการข้างเคียงจากการได้รับยาเคมีบำบัดหรือการใช้รังสี
โทษของการรับประทานน้ำมันตับปลา (Cod liver oil)
โทษของการทาน้ำมันตับปลา ถ้าหากว่าท่านรับประทานน้ำมันตับปลาในปริมาณที่มากเกินไปท่านทราบหรือไม่ว่าน้ำมันตับปลานั้นมีสารบางอย่างที่มีผลต่อการทำงานของเกล็ดเลือด โดยทำให้เกร็ดเลือดทำงานผิดปกติเหมือนกับยาแก้ปวดอย่างแอสไพริน ซึ่งถ้าหากว่าควรรับประทานน้ำมันตับปลาเป็นประจำและจะต้องเข้ารับการผ่าตัด แน่นอนว่าควรบอกแพทย์ให้ละเอียดถึงการรับประทานยาและจะต้องหยุดยาก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 10 วัน เพื่อให้เกร็ดเลือดตัวใหม่สมบูรณ์และเพื่อป้องกันการเลือดไหลไม่หยุดหรือออกมามากกว่าปกติ
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : น้ำมันปลาช่วยอะไร?
Credit by : https://healthyandexercise.com/
