
ไขมัน (Fat) คืออะไร?
ไขมัน (Fat) เป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญต่อ สุขภาพ ที่เป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์และสัตว์ เป็นส่วนสำคัญในการเผาผลาญพลังงานและมีบทบาทสำคัญในการสร้างและรักษาส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การสร้างเซลล์, การฟื้นตัวจากบาดเจ็บ, การทำงานของระบบประสาท, และการขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย ไขมันมีประสิทธิภาพในการจัดเก็บพลังงาน 1 กรัมของไขมันมีพลังงานประมาณ 9 กิโลแคลอรี่ ซึ่งมากกว่าคาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีนที่มีพลังงานเพียง 4 กิโลแคลอรี่ต่อกรัม
ความสำคัญของไขมันในร่างกาย
ไขมันคือ สารอาหารที่มีบทบาทสำคัญมากในร่างกายของมนุษย์และสัตว์ มันมีหลายฟังก์ชันที่สำคัญและไม่สามารถแทนที่ได้ด้วยสารอื่น ๆ ไขมันมีความสำคัญทั้งในการเผาผลาญพลังงานและในการสร้างและรักษาส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย นี่คือเหตุผลที่ความสำคัญของไขมันในร่างกายไม่ควรถูกละเลย
- การเผาผลาญพลังงาน ไขมันเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในร่างกาย 1 กรัมของไขมันมีพลังงานประมาณ 9 กิโลแคลอรี่ การเผาผลาญไขมันเป็นสิ่งสำคัญในการรองรับกิจกรรมที่ต้องการพลังงานมาก เช่น การออกกำลังกายและกิจกรรมทางชีวภาพอื่น ๆ
- การสร้างและซ่อมแซมเซลล์ ไขมันมีบทบาทในการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว นอกจากนี้ยังช่วยในกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย โดยเฉพาะในระบบประสาท
- การนำซึ่งวิตามิน ไขมันช่วยในการดูดซึ่งวิตามินไลโพไรด์และวิตามินซีบาลล์ที่ไขมันได้ละลาย ซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและฟังก์ชันที่ดีของร่างกาย
- การสร้างฮอร์โมน ไขมันมีบทบาทในการสร้างฮอร์โมนที่สำคัญ เช่น ฮอร์โมนเพศ, ฮอร์โมนสเตอรอยด์, และฮอร์โมนสารสนเทศที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย
- การป้องกันการสูญเสียความร้อยเรียบของร่างกาย ไขมันมีบทบาทในการปกป้องอวัยวะภายในร่างกายโดยการเป็นหุ่นกั้นและช่วยรักษาความร้อยเรียบของหลอดเลือดและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ในร่างกาย
- การลดความเสี่ยงต่อโรค การบริโภคไขมันที่ดีต่อสุขภาพเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ, โรคเบาหวาน, และโรคเรื้อรังอื่น ๆ
แต่ควรระมัดระวังในการบริโภคไขมันในปริมาณมากเกินไป โทษของไขมัน นี่ก็มีเยอะ เนื่องจากมันอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในทางลบ อย่างไรก็ตาม ความสมดุลในการบริโภคไขมันในร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ เลือกไขมันที่ไม่อิ่มตัวและมีประสิทธิภาพต่อสุขภาพ เช่น ไขมันไม่อิ่มตัวและไขมันที่พบในน้ำมันมะเขือเทศ น้ำมันมะนาว และถั่วเพื่อรักษาสุขภาพร่างกายอย่างเหมาะสมและป้องกันการเสี่ยงต่อโรคในระยะยาว
ประเภทของไขมัน
ประเภทของไขมัน มีหลายประเภทแบ่งตามลักษณะโครงสร้างของโมเลกุลไขมัน
1.ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) มีโครงสร้างที่ทุกอะตอมคาร์บอนในโมเลกุลไขมันมีการผูกกับไฮโดรเจนอย่างแน่นหนา ไขมันอิ่มตัวเรียกว่า “อิ่มตัว” เพราะไม่มีการเชิงผิดเชิงชิลด์ในโครงสร้างนี้ ไขมันอิ่มตัวส่วนใหญ่พบในเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์, เช่น น้ำมันปาล์ม, น้ำมันมะกอก, และเนย
2.ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fat) มีโครงสร้างที่มีการเชิงผิดเชิงชิลด์ในโมเลกุลไขมัน ไขมันไม่อิ่มตัวมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น ไขมันที่พบในน้ำมันมะเขือเทศ, น้ำมันมะนาว, และเนยถั่ว
3.ไขมันที่เป็นพิษ (Trans Fat) ไขมันที่ถูกสร้างขึ้นผ่านกระบวนการ hydrogenation หรือสังเคราะห์ เป็นไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพและมักพบในอาหารที่แปรรูปและอาหารฉบับสำเร็จรูป การบริโภคไขมันที่เป็นพิษอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและโรคอื่น ๆ
ผลกระทบของไขมันต่อสุขภาพ
- ผลกระทบต่อระดับไขมันในเลือด
- ไขมันส่วนใหญ่แบ่งเป็นไขมันอิ่มตัว (saturated fat) และไขมันไม่อิ่มตัว (unsaturated fat) การบริโภคไขมันอิ่มตัวมากๆ อาจเพิ่มระดับไขมันในเลือด ที่สำคัญคือไขมันเลือดชนิด LDL (Low-Density Lipoprotein) หรือ “ไขมันรุนแรง” ซึ่งมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
- การบริโภคไขมันในปริมาณมากๆ โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากมันสามารถสะสมในผนังหลอดเลือดและทำให้หลอดเลือดตีบและตีบขึ้น
- โรคเบาหวาน
- การบริโภคไขมันในปริมาณมากอาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โดยเฉพาะในกรณีที่มีการสะสมไขมันในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อและเซลล์ต่าง ๆ ที่ทำให้เสี่ยงต่อความต้านทานของอินซูลิน
- โรคอ้วน
- การบริโภคไขมันในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้มีการเก็บไขมันเป็นเรียวที่เกิดขึ้น ซึ่งสามารถเสริมความอ้วนและเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้
- การเสี่ยงต่อโรคอื่น ๆ
- การบริโภคไขมันอิ่มตัวและไขมันที่เป็นพิษ (trans fat) อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และโรคอื่น ๆ อีกมาก
- สุขภาพสมบูรณ์
- ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ไขมันไม่อิ่มตัวและไขมันพอลิอันไม่อิ่มตัว มีประสิทธิภาพในการช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและส่งเสริมสุขภาพทั่วไปของร่างกาย
วิธีการควบคุมการบริโภคไขมัน
แนวทางการควบคุมการบริโภคไขมัน มีดังนี้
-
ลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์เป็นไขมันที่พบได้ในอาหารจากสัตว์ อาหารทอด และอาหารแปรรูป เช่น เนย ชีส เนื้อสัตว์ติดมัน เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว เป็นต้น ควรลดการบริโภคไขมันเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด
-
เพิ่มการบริโภคไขมันไม่อิ่มตัว ไขมันไม่อิ่มตัวเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ พบได้ในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดชา เป็นต้น ควรเลือกรับประทานน้ำมันพืชเป็นแหล่งของไขมันแทนการรับประทานไขมันจากสัตว์หรือไขมันทรานส์
-
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารผัด อาหารที่มีครีมหรือชีสเป็นส่วนประกอบ เป็นต้น
-
อ่านฉลากโภชนาการก่อนเลือกซื้ออาหาร ฉลากโภชนาการจะแสดงปริมาณไขมันที่ระบุไว้ในอาหารแต่ละชนิด ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำหรือไขมันต่ำมาก
-
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น ผักและผลไม้มีไขมันต่ำและอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
-
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย
นอกจากนี้ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อขอคำแนะนำในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
คำถามที่พบบ่อย FAQ
1.ไขมัน ldl คือ
- ไขมัน LDL หรือ Low-density lipoprotein เป็นไขมันชนิดไม่ดีที่รู้จักกันในชื่อ “ไขมันเลว” เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่พบได้ในเลือด ทำหน้าที่ขนส่งคอเลสเตอรอลจากตับไปยังเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย คอเลสเตอรอลเป็นสารที่มีความสำคัญต่อร่างกาย แต่หากมี LDL สูงเกินไป อาจทำให้เกิดคราบไขมันสะสมตามผนังหลอดเลือด ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
2.วิธีลดไขมันในร่างกาย
- วิธีเบิร์นไขมัน มีหลายวิธีสามารถทำตามได้ดังนี้ 1.ควบคุมอาหาร 2.ออกกำลังกาย 3.งดทานของทอด ของมัน ของหวาน 4.จำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 5.งดสูบบุหรี่ 6.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงผ่อน
3.หน้าที่ของไขมัน คืออะไร
- ไขมันเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในร่างกาย ไขมันมีบทบาทในการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว การนำวิตามินเข้าร่างกาย และการสร้างฮอร์โมน
4.ไขมัน มีอะไรบ้าง
- 1.ไขมันอิ่มตัว 2.ไขมันไม่อิ่มตัว 3.ไขมันที่เป็นพิษ
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : โปรตีน , คาร์โบไฮเดรต
Credit : https://healthyandexercise.com/